ทำไมเราถึงต้องตรวจสุขภาพเท้า

0
44
ทำไมเราถึงต้องตรวจสุขภาพเท้า

ทำไมเราถึงต้องตรวจสุขภาพเท้า

เราอาจจะเคยตรวจสุขภาพร่างกายกันทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเคยตรวจสุขภาพเท้า และอีกหลายคนก็คงสงสัยว่าควรตรวจเท้าจริงหรือ หากร่างกายมีวันเสื่อม หรือมีช่วงเวลาที่เจ็บป่วย เท้าของเราเองก็เช่นกัน ที่สามารถเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้ ซึ่งคุณอย่าลืมว่าในแต่ละวันเท้าของคุณต้องแบกรับน้ำหนักทั้งร่างกาย แถมยังทำงานหนักโดยที่ตัวคุณอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นเรามาดูกันค่ะว่า ทำไมเราถึงต้องตรวจสุขภาพเท้า

ตรวจสุขภาพเท้า ตรวจอะไรบ้าง

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าการตรวจสุขภาพเท้านั้นเหมือนการตรวจสุขภาพร่างกายทั่ว ๆ ไปไหม ต้องบอกอย่างนี้ค่ะ ว่าคล้าย ๆ กัน แต่เปลี่ยนการโฟกัสจากทั่วร่างกาย เหลือเพียงเท้าสองข้างของเรา ซึ่งบางคนมีปัญหาในเรื่องของรูปร่าง หรือในผู้ที่มีโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน ก็จำเป็นต้องดูแลเท้าเป็นพิเศษ โดยทั่วไปจะตรวจตามรายละเอียดดังนี้

  • ตรวจสุขภาพเท้า เพื่อดูว่าเท้าของเราเหมาะกับรองเท้าประเภทไหน เนื่องจากเท้าแต่ละรูปทรงจะมี

ปัญหาและการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป การใส่รองเท้าทั่วไปอาจจะไม่ส่งผลดีกับเท้าในระยะยาว รวมถึงในผู้ที่มีความเสี่ยงจะเกิดแผลที่เท้าอย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะแผลเรื้อรัง หากเป็นมาก อาจนำไปสู่การตัดเท้าหรือตัดขาในที่สุด

  • ตรวจการลงน้ำหนักบนฝ่าเท้าด้วยเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อการวิเคราะห์อย่างแม่นยำและนำไปสู่การแก้ไข

รักษาอย่างถูกวิธี

  • การวัดเท้าจากการยืน เพื่อวิเคราะห์ประเภทของเท้าและวิเคราะห์เบื้องต้น โดยดูจากแรงกดจากการ

เดิน รวมถึงการถ่ายน้ำหนักลงตำแหน่งใดบ้างบนฝ่าเท้า เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และนำไปสู่การจัดทำแผ่นรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล

  • ในบางที่ก็จะมีบริการสั่งตัดรองเท้าเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาเท้าตามรายบุคคล นั่นก็จะช่วยบรรเทาอาการ

ที่เกิดขึ้นที่เท้าได้ในอีกทางหนึ่ง

ใครบ้างที่ควรตรวจสุขภาพเท้า

จริง ๆ แล้วทุกคนควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน หรือในผู้ที่มีความเสี่ยงจะเกิดแผลที่เท้าได้ง่าย

ทำไมคนเป็นโรคเบาหวานจึงต้องตรวจสุขภาพเท้า

โรคเบาหวานจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้มีโอกาสเกิดแผลที่เท้าได้มากขึ้น โดยสามารถเช็กลิสต์ปัญหาหรืออาการที่สามารถเกิดขึ้นจนส่งผลกับสุขภาพเท้าได้ดังนี้

  • แผลที่เท้าหายช้า
  • เล็บขบหรือมีเชื้อราบริเวณเล็บ
  • ผิวบริเวณส้นเท้าแห้งแตกหรือลอก
  • สีผิวที่เท้าคล้ำกว่าปกติ
  • ขาหรือเท้าบวม
  • รู้สึกปวดหรือเสียวซ่าบริเวณเท้า

การรักษาแผลที่เท้าในผู้ที่เป็นเบาหวานจะใช้เวลาในการรักษาที่นาน เพราะส่วนใหญ่มักเป็นแผลเรื้อรังและมีโอกาสอักเสบและติดเชื้อ ลุกลามจนต้องตัดนิ้ว ตัดเท้าหรือขาหากดูแลไม่ถูกวิธี ซึ่งหลักการรักษาแผลที่เท้าของผู้ที่เป็นเบาหวานมี 3 ข้อ ได้แก่

  • แผลสะอาดควบคุมการติดเชื้อได้
  • เลือดมาเลี้ยงถึงบริเวณที่เป็นแผล
  • ไม่มีแรงกด แรงกระทบกระเทือน

การดูแลสุขภาพเท้าของผู้ที่เป็นเบาหวานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อลดแรงกดขณะเดิน ลดการเกิดแผลที่เท้า เพราะโรคนี้จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดแผลที่เท้าได้สูงขึ้น จึงต้องใส่รองเท้าที่ตัดมาเพื่อเหมาะกับสรีระและข้อจำกัดของเท้าแต่ละคน

การตรวจสุขภาพเท้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ใช่แค่เพียงในผู้ที่เป็นเบาหวานเท่านั้น แต่ในทุก ๆ คน ซึ่งคุณเองก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองเบื้องต้น อย่างเช็กสภาพเท้าของเราว่ามีความผิดปกติ หรือมีแผลอะไรไหม หากพบสิ่งผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว