ปี 2568 มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่เว้นแม้แต่โรคภัยไข้เจ็บที่อาจคุกคาม “เพื่อนรักสี่ขา” ของเรา! รู้หรือไม่ว่าโรคภัยของน้องหมาน้องแมวก็มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไลฟ์สไตล์ และสภาพแวดล้อม วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก “โรคเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ต้องระวังในปี 2568” พร้อมเผยวิธีดูแลป้องกัน ให้เจ้าตัวเล็กแข็งแรง อยู่กับเราไปนานๆ
โรคติดเชื้อ: ภัยร้ายที่มากับเพื่อนใหม่และสภาพอากาศ
-
โรคไข้หัดสุนัข: โรคติดต่อร้ายแรงที่คร่าชีวิตสุนัขได้ แพร่เชื้อผ่านสารคัดหลั่ง อาการสำคัญคือ มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล ท้องเสีย ชัก ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสุนัขป่วย
-
โรคลำไส้อักเสบในแมว: เกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้แมวมีอาการ อาเจียน ท้องเสีย ซึม เบื่ออาหาร รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ควรฉีดวัคซีนป้องกัน รักษาความสะอาด และแยกแมวป่วยออกจากแมวตัวอื่น
-
โรคพยาธิหนอนหัวใจ: ยุงเป็นพาหะนำโรค ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หายใจลำบาก ไอ ป้องกันได้ด้วยการให้ยาป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
โรคไม่ติดต่อ: ภัยเงียบจากพันธุกรรม อาหารการกิน และความเครียด
-
โรคอ้วน: ปัญหาสุขภาพยอดฮิตในสัตว์เลี้ยง เกิดจากการกินมากเกินไป ออกกำลังกายน้อย เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคข้อเสื่อม ควบคุมน้ำหนักด้วยการให้อาหารที่เหมาะสม และพาออกกำลังกายเป็นประจำ
-
โรคไต: พบมากในสัตว์เลี้ยงสูงวัย ทำให้ไตทำงานผิดปกติ มีอาการ กินน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหาร อาเจียน ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ เลือกอาหารสูตรเฉพาะสำหรับสัตว์ป่วย และดูแลเรื่องการดื่มน้ำ
-
โรคมะเร็ง: โรคร้ายที่พบได้ในสัตว์เลี้ยงทุกสายพันธุ์ อาการแตกต่างกันไปตามชนิดของมะเร็ง การตรวจสุขภาพ คัดกรองมะเร็ง ช่วยให้พบโรคในระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสในการรักษา
โรคอุบัติใหม่และโรคที่ต้องเฝ้าระวัง:
-
โรคไข้หวัดนก: แม้จะยังไม่พบการระบาดในสัตว์เลี้ยง แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจกลายพันธุ์ ติดต่อจากสัตว์ปีกสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ปีก และดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยง
-
โรคติดเชื้อจากเห็บหมัด: เห็บหมัดไม่ใช่แค่ทำให้คัน แต่ยังเป็นพาหะนำโรค เช่น โรคพยาธิเม็ดเลือด โรคไข้เห็บ ควรหมั่นกำจัดเห็บหมัด และพาสัตว์เลี้ยงพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และรับยาป้องกัน
ดูแลสัตว์เลี้ยง ให้แข็งแรง ปลอดภัย ห่างไกลโรค
การดูแลเอาใจใส่ เป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันโรค ให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรง
- เลือกอาหารที่เหมาะสม: ตามสายพันธุ์ อายุ และสุขภาพ
- ดูแลความสะอาด: อาบน้ำ แปรงขน ทำความสะอาดที่อยู่อาศัย
- พาออกกำลังกาย: เสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- ฝึกฝนพฤติกรรม: ลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต
- พาไปพบสัตวแพทย์: ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน และรับคำปรึกษา
ใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เหมือนคนในครอบครัว เพราะพวกเขาคือเพื่อน คือส่วนหนึ่งของชีวิต การดูแลป้องกัน ช่วยให้พวกเขาแข็งแรง อยู่กับเราไปนานๆ
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ควรปรึกษาสัตวแพทย์