วันหัวใจโลก 2566

0
15
วันหัวใจโลก 2566

วันหัวใจโลก ตรงกับวันที่ 29 กันยายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปี 2566 สมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation) ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ “USE HEART FOR EVERY HEART” ใช้ใจเพื่อรักษาหัวใจทุกดวงให้ห่างไกลจากโรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงแข็งตัวและตีบตัน ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่

  • ปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด
  • ปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้ เช่น อายุ เพศ ประวัติครอบครัว

การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่ ดื่มสุราในปริมาณที่พอเหมาะ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยงและโรคหัวใจและหลอดเลือด

ในปี 2566 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 70,000 ราย คิดเป็น 20% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยกลุ่มอายุที่พบบ่อยที่สุดคือ 45-64 ปี

กิจกรรมรณรงค์วันหัวใจโลก 2566 ในประเทศไทย ประกอบด้วย

  • การจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • การจัดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
  • การจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพหัวใจฟรี

ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการรณรงค์วันหัวใจโลกได้ ดังนี้

  • เรียนรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

การร่วมมือกันป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดจะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้

โรคหลอดเลือดหัวใจ

โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease) เป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัวและตีบตัน ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้

หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจเรียกว่า หลอดเลือดแดงโคโรนารี (Coronary artery) มีหน้าที่นำเลือดที่อุดมไปด้วยออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หากหลอดเลือดแดงโคโรนารีแข็งตัวและตีบตัน จะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดออกซิเจนและทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้

สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่

  • ปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด
  • ปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้ เช่น อายุ เพศ ประวัติครอบครัว

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่

  • เจ็บหน้าอก มักเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาการเจ็บหน้าอกอาจมีลักษณะเป็นแบบจุกแน่น บีบ หรือแสบร้อน มักเกิดขึ้นบริเวณกลางหน้าอก บางครั้งอาจร้าวไปที่แขนซ้าย คอ ไหล่ หรือกราม
  • หายใจลำบาก
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เหงื่อออกมาก
  • หน้ามืด เป็นลม

หากมีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่ ดื่มสุราในปริมาณที่พอเหมาะ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก
  • รับประทานยา เช่น ยาลดไขมัน ยาลดความดันโลหิต ยาขยายหลอดเลือด
  • การผ่าตัด เช่น การทำบอลลูนขยายหลอดเลือด การทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ

การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่ ดื่มสุราในปริมาณที่พอเหมาะ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยงและโรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคที่พบได้บ่อยและสามารถป้องกันได้ การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น