วิตามิน สำคัญต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร ?

0
49
วิตามิน สำคัญต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร

วิตามิน สำคัญต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร ?

วิตามินถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กนั้นจำเป็นอย่างมาก เพราะเด็กต้องใช้วิตามินจำนวนมากในการเจริญเติบโต ซึ่งแต่ละวิตามินนั้นก็สำคัญสำหรับแตกต่างกัน

“เด็ก” และความสำคัญของวิตามิน

เด็ก ในช่วงช่วงวัย 3-6 ขวบ นับว่าเป็นช่วงที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของเด็ก เพราะเป็นช่วงที่เด็กเริ่มพัฒนาการต่อสิ่งรอบตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ พฤติกรรมการกินอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งแม้จะกินอาหารหลักให้ครบ 3 มื้อ แต่ก็จะเริ่มเลือกทานอาหารที่ตัวเองชอบ และไม่ทานสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ จนเด็กบางคนเกิดโรคขาดวิตามิน ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ซึ่งแตกต่างจากเด็กที่กินอาหารครบทั้ง 5 หมู่อยู่แล้ว จะมีร่างกายที่แข็งแรง ได้รับวิตามินที่เหมาะสมในแต่ละวันที่เพียงพอมากกว่าเด็กที่เลือกทานอาหาร ซึ่งแนะนำให้เด็กกินผลไม้ ผัก ธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากนมและโปรตีน เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ซึ่งจากการวิจัยพบว่าวิตาในที่สำคัญสำหรับเด็กมีถึง 7 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

7 วิตามิน ที่สำคัญสำหรับเด็ก

1.แคลเซียม (Calcium)
แคลเซียม จำเป็นสำหรับการสร้างกระดูก และ ฟัน โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กระดูกยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ หากตั้งแต่เด็กจนโต ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนและกระดูกเสื่อม เมื่ออายุมากขึ้น แคลเซียมยังช่วยในการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย
อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม เนย ชีส โยเกิร์ต ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปลาแซลมอน
2.วิตามินเอ (Vitamin A)
วิตามินเอ ช่วยในเรื่องการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ วิตามินเอ ยังช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส และ เส้นผมแข็งแรง
อาหารที่มีวิตามินเอสูง ได้แก่ นม เนย ชีส โยเกิร์ต ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปลาแซลมอน
3. ใยอาหาร โอลิโกฟรุกโตส (Oligofructose)
โอลิโกฟรุคโตส ไม่ใช่วิตามิน หรือ แร่ธาตุ แต่จัดเป็นเป็น ใยอาหารชนิดหนึ่ง ที่จำเป็นต่อร่างกาย โอลิโกฟรุกโตส เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของลูก ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูก และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยด้วยอาหารที่มีใยอาหาร โอลิโกฟรุกโตส ได้แก่ ผัก ผลไม้ หัวหอม กระเทียม กล้วย
4. วิตามินบี 12 (Vitamin B12)
วิตามินบี 12 ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มสมาธิ จึงเป็นวิตามินที่ดีกับเด็กวัยเรียน นอกจากนี้ ประโยชน์วิตามินบี 12 ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหารอาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง ได้แก่ นม ไข่แดง ชีส ปลา เนื้อหมู เนื้อวัว ตับ
5. ธาตุเหล็ก (Iron)
ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่สำคัญกับร่างกาย ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะลำเลียงเอาออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากขาดธาตุเหล็กยังทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ และส่งผลต่อพัฒนาการ และความสามารถของการเรียนรู้อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ ตับ ถั่ว อาหารทะเล ธัญพืช
6. วิตามินซี (Vitamin C)ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กินเป็นประจำยังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัดด้วย ดังนั้นเด็กที่ป่วยเป็นหวัดบ่อย ๆ ควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ วิตามินซีช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ด้วยอาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผัก เช่น ผักใบเขียว มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ และผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว เช่น เบอร์รี่ ส้ม ฝรั่ง
7. วิตามินดี (Vitamin D)ช่วยเสริมการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน หากรับประทานร่วมกับวิตามินเอ และวิตามินซี จะช่วยป้องกันโรคหวัดได้อาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า นม เนย ชีส